กริชมาดูรา ความยาวรวม 12 นิ้ว ใบกริช 7 นิ้ว ด้ามจับ 4
นิ้ว กริชเล่มนี้เป็นกริชที่ขุดได้ที่ปักษ์ใต้บ้านเราในพื้นที่ จ.ปัตตานี เหล็กที่ตีใบกริชมีคุณภาพดีมากน่าจะตีจากเหล็กกล้าที่คุณภาพสูงขนาดจมดินมาหลายร้อยปียังมองเห็นทรงอยู่ และงาแกะจะกลายเป็นฟอสซิวอยู่แล้ว กริชเล่มนี้มีอายุ 200-300 ปี
ก็ตรงกับอยุธยาบ้านเรา ฝักไม่มีเนื่องจากขุดได้ในประเทศไทยเลยทำฝักแบบจรีบอนให้ตรงกับยุคอยุธยาตามความชอบส่วนตัวและชอบกริชฝักข้าวโพดท่านโกษาปานเลยทำฝักลักษณะเดียวกัน
เพราะอยู่ยุคอยุธยาเหมือนกัน ช่วงยุคแรกด้ามกริชจะแกะจากงาช้าง พอยุคถัดมางาช้างหายากจะใช้วัสดุเป็นประเภทเขี้ยวหรือกระดูกปลาวาฬ
ข้อสัณนิษฐานส่วนตัวของเส้นทางการเดินทางของกริชเล่มนี้น่ามาจากทางเส้นทางเดินเรือสินค้าที่มาค้าขายแถบแหลมมาลายูผ่านช่องแคบมะละกา
ในอดีตปัตตานีเป็นศูนย์กลางการค้าและเมืองท่านานาชาติ และผลิตปืนใหญ่ ปืนใหญ่ที่มีชื่อเสียงของปัตตานีคือ ปืนใหญ่พญาตานี
กริชมาดูรา
เป็นกริชที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ผสมผสานระหว่างเจ้าอาณานิคมและวัฒนธรรมพื้นถิ่น
( เกาะ Madura ) จากลวดลายที่ปรากฎที่ด้ามจับ เป็นลวดลายของทางยุโรป เช่นม้าเพกาซัส
หรือม้าบิน และลายดอกอื่นลายเครือเถาและลวดลายที่ด้ามก็เป็นเอกลักษณ์ของกริชมาดูราซึ่งเป็นเกาะที่เป็นฐานสำคัญของพวกฮอลันดาที่เข้ามายึดครองอินโดนีเซียและได้รับเอาวัฒนธรรมพื้นเมืองในเรื่องกริชเข้าไปด้วยแต่มีการดัดแปลงเรื่องลวดลายให้เข้ากับทางยุโรปซึ่งเป็นท้องถิ่นตัวเองความนิยมในเรื่องนี้ทำให้นักสะสมชาวฮอลันดามีกริชมากกว่าชนชาติอื่นในยุโรปรวมทั้งพิพิธภัณฑ์ในเนเธอเแลนด์มีกริชแสดงอยู่มาก
*ในอดีตสมัยเนเธอร์แลนด์เข้าไปปกครองหมู่เกาะอินเดียตะวันออก
ทุกวันนี้หมู่เกาะอินเดียตะวันออกเปลี่ยนชื่อเป็นหมู่เกาะอินโดนีเซีย หรือ ชวาเป็นแหล่งเครื่องเทศที่สำคัญ
จึงเป็นที่สนใจของชาวตะวันตก และตกเป็นอาณานิคมของประเทศ เนเธอร์แลนด์ ในนามของ VOC คำนี้ย่อมาจาก Vereenigde Oost-Indische Compagnie แปลเป็นภาษาไทยก็คือ
บริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา ผู้คนชนชาตินี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของ VOC นานกว่า 300 ปี ช่วงระยะเวลา 3 ศตวรรษ VOC นำทรัพยากรธรรมชาติจากอินโดนีเซียไปสร้างความมั่งคั่งให้กับราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์เป็นจำนวนมาก
*พ.ศ.2485
ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ญี่ปุ่นได้ยึดครองอินโดนีเซียและขับไล่เนเธอร์แลนด์ออกไปได้สำเร็จ
*17
สิงหาคม พ.ศ.2488 อินโดนีเซียถือโอกาสประกาศเอกราชเพราะญี่ปุ่นแพ้สงคราม โดยมี
ซูการ์โน เป็น ประธานาธิบดีคนแรก แต่เนเธอร์แลนด์ไม่ยอมรับและพยายามกลับเข้ายึดครองอินโดนีเซียอีก
ทำให้เกิดการสู้รบกันอย่างรุนแรง
*พ.ศ.2489
ทั้งสองฝ่ายลงนามเพื่อยุติความขัดแย้งใน ข้อตกลงลิงกัดยาติ (Linggadjati Agreement) แต่ภายหลัง
เนเธอร์แลนด์ละเมิดข้อตกลงโดยนำทหารเข้าโจมตีอินโดนีเซียอีก
*ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2492
อินโดนีเซียจึงได้รับเอกราชจากเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากสหประชาชาติกดดัน
แต่เนเธอร์แลนด์ก็ไม่คืนดินแดนอิเรียนจายาตะวันตกให้
จนในที่สุดประชาชนในดินแดนนั้นได้ลงประชามติขอเป็นส่วนหนึ่ง
ของอินโดนีเซียต่อสหประชาชาติจึงสามารถรวมกันได้สมบูรณ์ใน พ.ศ.2506
|