ดาบซามูไรวากิซาชิ(Wakizashi) ความยาวรวม 26 นิ้ว เฉพาะใบดาบ 18 นิ้ว Hamon ลายฟันฉลาม Habaki 2 ชั้น Seppa ใล่ระดับ2 ชั้น หุ้มด้วยฟอยทองคำ Tsuba ฝั้ง Inlay
ลายเถา Kuzuka มีดซ่อน เป็นรูปคนพายเรืออีแปะสลับเปียกทอง
และ Menuki ทำด้วยทองแดงรูปชายเลี้ยงวัวสลับเปียกทอง งานศิลปะที่ช่างญี่ปุ่นถ่ายทอดลงใน
Tsuba, Kuzuka, Menuki เป็นงานศิลปะชั้นสูงอย่างหนึ่งของช่างญี่ปุ่น
โดยถ่ายทอดศิลปะโดยดูจากสิ่งที่อยู่รอบๆตัว อธิเช่น ธรรมชาติ วิถีชีวิต ตำนานความเชื่อ
และศาสนา เป็นดาบที่ชื่อช่างมีชื่อเสียงอยู่ในตำราของสำนัก Bishu Osafune Sukemetsu
อยู่ในช่วง ค.ศ 1469 อายุเกือบ 600 ปีเอกลักษณ์ของดาบ Bishu หรือ Bizen กั่นดาบจะมีความใหญ่หนา และ Hamon เป็นลายฟันฉลามแบบถี่ๆดาบเล่มนี้อยู่ในยุคสมัยมุโรมาจิ ซึ่งตรงกับ ค.ศ
1336-1573 ตรงกับยุคสมัยดาบเก่า สมัยโคโต เนื่องจากสมัยโคโตยาวนานกว่า 700ปี แถมมีสงครามบ่อยครั้งความต้องการดาบสูงมาก
ช่วงนึงของสมัยโคโตก็ตรงกับสมัยคามาคุระคือประมาณศตวรรษที่12-13
ซึ่งเป็นยุคทองของดาบ เพราะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและสวยงาม
มาซามุเนะที่เป็นช่างตีดาบผู้ยิ่งใหญ่ก็อยู่ในยุคนี้ด้วย ช่วงปลายสมัยโคโตก็มีสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่คือเซนโกคุ
เรียกได้ว่าเดี๋ยวรบเดี๋ยวเลิกกันอยู่เป็นร้อยปี ทำให้มีโรงตีดาบเกิดขึ้นมากมาย
แต่จะเกาะกลุ่มอยู่ในเขตที่มีแร่เหล็กหรืออยู่เขตปกครองของตระกูลที่เป็นทหาร
และเกิดรูปแบบการตีดาบขึ้น 5 แบบเรียกตามชื่อจังหวัดในขณะนั้น
(ในวงเล็บคือจังหวัดในปัจจุบัน) ได้แก่
1.บิเซน(โอคะยามะตอนล่าง)
2.มิโนะ(กิฟุ)
3.โซชูหรือซากามิ(คานากะวะ)
4.ยามะชิโระ(เกียวโต)
5.ยามาโตะ(นารา)
ทั้งหมดนี้เรียกรวมกันว่า โกะคะเด็น (五家伝)
ช่างตีดาบในสมัยโคโตจะยึดวิธีการของโกะคะเด็นเป็นหลักรูปแบบการตีดาบแต่ละแบบก็จะมีโรงตีดาบชื่อดังในจังหวัดนั้นๆเป็นผู้ริเริ่มและมีลูกศิษย์มากมาย เป็นแม่แบบของสายนั้นๆ ใครๆก็อยากเรียน เป็นยุคทองของสมัยดาบโบราณ
|