เขี้ยวเสือโปร่งฟ้าหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน จุดสังเกตุที่แตกต่าง เขี้ยวเสือภาคกลางของไทยจะต่างจากเขี้ยวเสือจากไทใหญ่ทางพม่า เป็นเขี้ยวเสือคนละสายพันธุ์กันกับทางพม่าขนาดของเขี้ยวจะมีขนาดที่แตกต่างกัน ทางล้านนาไทใหญ่เขี้ยวจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเพราะเป็นเสือเบงกอลจากอินเดียและปลายเขี้ยวมักมีการฝนทำยาและฝนกับว่านยาสักในการสักลงอักขระเลขยันต์ลงตามร่างกายตามประเพณีนิยม ปลายเขี้ยวจะมีรอยฝนถ้าพบเห็นเขี้ยวที่มีขนาดใหญ่และมีเชือกพันนั้นมีรอยฝนที่ปลายเขี้ยวสันนิษฐานได้เลยเป็นของเพือนบ้านทางพม่าไทใหญ่ชัดเจน 

เขี้ยวโปร่งฟ้าเป็นเครื่องรางที่ได้จากธรรมชาติตามตำราโบราณได้กล่าวไว้เครื่องรางทนสิทธิ์สุดยอดของเขี้ยวเขี้ยวเสือต้องโปร่งฟ้าส่วนเขี้ยวหมูป่าต้องเขี้ยวตัน ไม่ต้องเสกก็มีฤทธิ์ในตัว ได้จากพื้นที่สมุทรปราการ เขี้ยวเสือโปร่งฟ้าพันด้ายสายสิญจน์เส้นเล็กเขี้ยวนี้ลงรักษ์จีนแดง ยิ่งไปส่องกับแดดจะออกแดงชัดเจนเปรียบเทียบรักษ์ให้เห็นชัดมากขึ้นเป็นรักษ์ลักษณะเดียวกันที่ลงปิดตาหลวงปู่เจียม วัดกำแพง จ.ชลบุรี เป็นรักษ์จีนแบบเดียวกัน รักษ์กับด้ายที่พันตัวเขี้ยวเช่นเดียวกับตะกรุดหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน เขี้ยวเสือนี้เคยเป็นดาราลงในหนังสือเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนว่าเป็นของหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน เขี้ยวเสือถ้ามีถักเชือกล้วนแต่ได้รับการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ทั้งสิ้นไม่นิยมจารเพราะเขี้ยวเสือมีพลังอำนาจในตัว ล้วนแต่เป็นความเชื่อที่มาแต่สมัยโบราณเขี้ยวเสือนี้เป็นเขี้ยวภาคกลางแน่นอนไม่ใช่ของเหนือของไทใหญ่รักษ์คนละตัวของทางเหนือกับของไทใหญ่รักษ์ทางนี้จะออกดำอมม่วง ผสมผงเชือกเส้นใหญ่ เขี้ยวเสือที่ลงรักษ์จีนออกแดงพันด้วยสายสิญจน์เส้นเล็กเข้าลักษณะแบบนี้พบเห็นในวงการไม่กี่เขี้ยวจนกลายเป็นตำนาน