รูปถ่ายซีเปียครูบาศรีวิชัยชนะมาร ขนาด 4*6 นิ้ว ไม่รวมการด์กรอบการด์เดิมตะปูยึดหลังแน่นเดิมปรอทยังมีอยู่ให้เห็น จัดเป็นรูปที่สมบูรณ์มาก ภาพถ่ายนี้เป็นภาพถ่ายที่หายากอีกรูปหนึ่งของครูบาศรีวิชัยและท่านั่งนี้ไม่ธรรมดาไม่ค่อยได้เห็นในภาพถ่ายของครูบาศรีวิชัย
ครูบาฯท่านคงสื่อให้เห็นพระสงฆ์น้อยรูปที่จะนั่งถ่ายท่านี้ ขออธิบายถึงปางมารวิชัย หรือ ชนะมาร หรือ สะดุ้งมาร เป็นท่านั่งที่มีความสำคัญของศาสนาพุทธเป็นท่านั่งที่พระพุทธเจ้าใช้เอาชนะเหล่าพญามารก่อนที่พระพุทธองค์จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปางมารวิชัยหรือชนะมาร เป็นปางหนึ่ง
อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา
พระหัตถ์ขวาวางคว่ำลงที่พระชานุ นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงที่พื้นธรณีในคราวที่พระองค์ทรงเอาชนะมารได้พระบรมโพธิสัตว์
(พระพุทธเจ้าก่อนบรรลุธรรม) ได้เสด็จไปประทับใต้ต้นมหาโพธิ์ในเวลาเย็น
และนั่งสมาธิกำหนดจิตเจริญสมาธิภาวนา เพื่อการบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
แต่จิตของพระองค์ แทนที่จะคิดไปในทาง โลกุตตรธรรม กลับหันไปคิดถึง โลกิยสุข แต่เมื่อครั้งอยู่ครองเรือน
ในหนหลัง และผู้แต่งปฐมสมโพธิกถา
ได้แสดงการผจญในโลกิยสุขของพระบรมโพธิสัตว์โดยใช้การผจญของมารเป็นสัญญลักษณ์ ดังนี้ว่าเป็น พระยาวัสสวดีมาร ซึ่งคอยติดตามพระองค์อยู่
จึงเข้าขัดขวาง โดยขี่ช้างคิรีเมขละ นำเหล่าเสนามารจำนวนมากเข้ามารบกวน
หวังให้พระองค์เกรงกลัวจะได้ลุกขึ้นเสด็จหนีไป
แต่พระองค์ก็ยังประทับนิ่งเป็นปกติโดยมิได้ทรงหวั่นไหว พระยามารจึงโกรธมาก
สั่งให้เสนามารกลุ้มรุมกันประหารพระองค์ พระองค์จึงทรงนึกถึงบารมี 30 ทัศ ที่ทรงบำเพ็ญสั่งสมมาทุกชาติ โดยขอให้นางแม่พระธรณีเป็นพยาน
แม่พระธรณีจึงผุดขึ้นมาจากพื้นดิน แล้วบิดมวยผมจนน้ำท่วม
กระแสน้ำก็พัดพาพวกเสนามารไปหมดสิ้น พระยาวัสสวดีมารจึงยอมแพ้หนีไป และ ครูบาศรีวิชัยเป็นต้นกำเนิดของคำว่ามารไม่มี บารมีไม่เกิด ครูบาศรีวิชัยท่านท่องบารมี 30 ทัศ เดินหน้าถอยหลังได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นคาถาที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยใช้ประจำมาโดยตลอด เป็นรูปที่หายากรูปหนึ่ง
|