รูปถ่ายซีเปียหลวงพ่อเปลี่ยน
วัดใต้ จ.กาญจนบุรี ปี 2475 ถ่ายคราวฉลองกรุงเทพฯ 150 ปี ขนาด 6*8 นิ้วการ์ดเดิมเป็นรูปที่หายากรูปหนึ่ง ณ.ชั่วโมงนี้รูปนี้มีเพียงหนึ่ง ส่วนเรื่องทางไสยศาสตร์เวทมนตร์
ของหลวงพ่อใครๆ ก็รู้กันทั่วว่าเก่งจริง ในกรุงเทพฯ สมัย ร.5 - ร.6 จะมีพิธีทางไสยศาสตร์แล้ว จะขาดหลวงพ่อวัดใต้เมืองกาญจน์ไม่ได้เลย
ดังปรากฏพัดรองและย่ามที่หลวงพ่อได้รับไปจากกรุงเทพฯ เช่น งานถวายพระเพลิง ร.5
งานเสวยราชย์ ร.6 งานฉลองครบ 150 ปี พัดจักรี ฯลฯ
ต่อมาหลวงพ่อเปลี่ยนได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ
เมื่อ พ.ศ. 2460 โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 กับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหารฯให้เติมสร้อยต่อท้ายนามของหลวงพ่อว่า พระวิสุทธิรังษี
ชินศาสนโสภีสังฆปาโมกข์
หลวงพ่อเปลี่ยนได้รับการชมเชยจาก
ร.5 ในคราวเสด็จประพาสเมืองกาญจน์โดยนำพระสงฆ์
20 รูปมาสวดมนต์รับเสด็จที่พลับพลาว่า "สวดมนต์เก่ง สวดได้ชัดเจน ตลอดจนการลีลา สังโยคน่าฟัง และขัดตำนานได้ไพเราะ"
หลวงพ่อเปลี่ยนจึงได้รับของพระราชทานหลายอย่างเป็นที่โปรดปรานของ
ร.6 ลักษณะของหลวงพ่อเป็นมหาอำนาจ
ใครได้พบเห็นน่าเกรงขามยิ่งนัก จนถึงกับมีคำขวัญว่า "เจ้าชู้ต้องวัดเหนือ
เป็นอ้ายเสือต้องวัดใต้" วัดเหนือหมายถึงพระครูอดุลยสมณกิจ (ดี) ในสมัยนั้น
ซึ่งต่อมาได้เลื่อนเป็นพระเทพมงคลรังษี
เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อสืบแทนหลวงพ่อเปลี่ยน
โดยปกติหลวงพ่อเปลี่ยนเป็นพระเอางานเอาการ
ปฏิบัติเคร่งครัดในระเบียบของสงฆ์โดยสมบูรณ์
ขยันทำวัตรสวดมนต์และกวดขันผู้ที่อยู่ในความปกครองอย่างมีความยุติธรรม
ใครดีก็ส่งเสริม ใครเลวก็ตักเตือน หากเตือนแล้วไม่ฟังก็จะปราบอย่างเด็ดขาด
จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวกาญจน์ และเมืองใกล้เคียง สมเด็จพระมหาสมณฯ
กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศ เขียนชมเชยในตรวจการคณะสงฆ์ จ.กาญจน์ ว่า "หลวงพ่อฉลาดในการปกครองมาก แม้เมืองกาญจน์จะมีอาณาเขตกว้างขวางก็ปกครองด้วยความเรียบร้อย"
|