ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ พระพิมลธรรม(นาค) วัดอรุณฯ
ตัวจริงเสียงจริงมือวางอันดับ 1 ของตะกรุดหนังหน้าผากเสือตลับทอง ย้อนหลังกลับไปในสมัยนั้นแถววัดอรุณขึ้นชื่อเรื่องผีดุเพราะมีทั้งสุสานของคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ
คริสต์ อิสลามอยู่รวมกันเด็กๆที่มาอาศัยวัดอยู่หรือคนแถววัดนั้นหลวงปู่นาคท่านจะทำผ้ายันต์ผืนเล็กๆแจกส่วนใหญ่ท่านจะพับให้เป็นผืนเล็กๆก่อนม้วนเหมือนตะกรุดแล้วเอาเชือกพันรอบบางดอกท่านจะเอาเชือกเส้นยาวๆวางที่ผ้ายันต์ที่ท่านพับเอาไว้ก่อนแล้วม้วนเหมือนม้วนตะกรุดแล้วพันเชือกรอบผ้ายันต์ส่วนเชือกที่วางตรงกลางจะยาวเอาหัวท้ายมามัดเป็นปมคล้องคอได้เลยผ้ายันต์แบบนี้ได้กันทุกคนมีทั้งสีแดงและสีขาวเขียนด้วยหมึกจีน ส่วนตะกรุดหนังหน้าเสือที่ปัจจุบันเรียกเป็นตะกรุดหนังหน้าผากเสือกันไปแล้วนั้นเมื่อลูกศิษย์โตเป็นหนุ่มทำงานทำการกันแล้วในปีไหนที่มีวันเสาร์๕ใครที่อยากได้
ท่านจะให้ไปซื้อหนังเสือโดยเลือกเฉพาะส่วนใบหน้าเท่านั้นไม่ให้ใช่จากส่วนอื่นแล้วห้ามไปฆ่าเสือเพื่อเอาหนังมาให้ท่านทำเด็ดขาดใครอยากได้ให้ไปซื้อที่ร้านเจ้ากรมเป๋อที่อยู่หน้าวัดสามปลื้มที่นอกจากเป็นร้านขายยาแผนโบราณแล้วยังมีของป่า
เขี้ยว
งาและสมุนไพรขายเวลาซื้อก็ให้ตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมความกว้างยาวเท่าข้อนิ้วกลางของตัวเราเท่านั้นจากนั้นก็ไปขูดขนแล้วฝนด้านในให้เรียบเวลาลงอักขระจะได้ไม่สะดุดเพราะถ้าเส้นยันต์ขาดเพราะเขียนแล้วสะดุดก็ถือว่าอักขระนั้นวิบัติใช้ไม่ได้จึงต้องตั้งใจฝนให้เรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ส่วนขนนั้นบางคนก็โกนเกลี้ยงบางดอกก็ยังมีเศษขนเหลือให้เห็นเล็กน้อย
คนรุ่นเก่าหลายบ้านที่อยู่ติดกับวัดเทียนถวายก็จะมีตะกรุดหนังหน้าเสือทางสายปทุม
กับทางวัดอรุณจะเล่นตะกรุดลักษณะแบบตะกรุดที่โชว์ และผ้ายันต์ที่มีลักษณะแบบนี้เหมือนกันหมดทุกคนเพราะสมัยก่อนหลวงปู่นาคท่านจะแวะมาที่วัดเทียนถวายอยู่บ่อยครั้ง
ตะกรุดนั้นยังแบ่งได้เป็น ๒ ยุค คือยุคแรกๆ
ท่านจะให้นำหนังหน้าผากเสือหรือหนังเสือมาขูดขนออกให้หมด
แล้วฝนกับกระดาษทรายให้บาง
ก่อนนำไปให้ท่านทำพิธีปลุกเสกช่วงที่มีวันเสาร์ ๕
เป็นของเฉพาะตนต่างคนต่างหามาให้ท่านทำอีกยุคหนึ่งช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพาช่วงท้ายชีวิตท่านลูกศิษย์ได้รวมเงินกันไปซื้อหนังหน้าเสือมาจากร้านเจ้ากรมเป๋อ แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นกว้างยาวประมาณ๑ข้อนิ้วกลางตอนนั้นท่านชราภาพมากแล้วท่านได้ให้ลูกศิษย์ที่ท่านครอบครูให้คือพระสละ
ไทรยศกับพระขวัญ เป็นคนทำโดยขูดขนออกแต่เนื่อง จากทำประมาณ ๑ พานดอกไม้
แล้วต้องเร่งทำให้เสร็จก่อนถึงฤกษ์การขูดขนจึงไม่ประณีต
จากนั้นก็ให้พระสละกับพระขวัญเป็นคนลงยันต์ม้วนตะกรุดและพันด้วยด้ายก่อนที่ท่านจะนำไปปลุกเสกจนได้ที่แล้วนำออกแจกลูกศิษย์เพื่อใช้คุ้มครองตัวในช่วงสงครามเรื่องยันต์ที่ลงในหนังหน้าเสือนั้นผู้ไม่รู้คิดไปเองว่าเป็นคาถาไตรสรณคมณ์เล่าต่อกันมาเขียนต่อกันไปทั้งที่จริงเป็นการลงอักขระยันต์หัวใจเสือ
นอกจากตะกรุดหนังหน้าเสือที่ทำให้เฉพาะศิษย์ที่ท่านรู้จักนิสัยใจคอเป็นอย่างดีแล้วคนแถวนั้นที่มาหลบภัยสงครามในวัดท่านจะทำเฉพาะผ้ายันต์ให้อย่างเดียวทำเสร็จก็พับแล้วม้วนเป็นเป็นแท่งเหมือนตะกรุดแล้วเอาด้ายพัน
ตะกรุดหนังหน้าผากเสือหลวงปู่นาค วัดอรุณฯ ดอกนี้ได้จากสายพระสละ ไทรยศ ขอขอบคุณ
คุณอ๊อด พระเมืองปทุม ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้ได้เผยแพร่
|