รูปถ่ายซีเปียครูบาเจ้าศรีวิชัย
ถ่ายกลางแจ้งบริเวณใต้ต้นชบาแดงที่วัดศรีโคมคำ จ.พะเยา ปี 2467 ขณะอายุได้
46 ปี กรอบการ์ดเดิม ต้นแบบเหรียญครูบาศรีวิชัย ปี 2482 ครูบาเจ้าฯท่านเป็นพระภิกษุธรรมดาๆ
องค์หนึ่งซึ่งเข้าร่วมห่มผ้าเหลืองมาเป็นพระเข้าบวชเรียน จากสามเณรสู่พระภิกษุ และ
ท้ายที่สุดก็สิ้นอายุขัยในผ้าเหลืองในระยะเวลา ๔๒ ปี โดยไม่เคยได้รับสมณศักดิ์ใดๆ
ไม่ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ ไม่เคยมีพัดยศ หรือตำแหน่งทางคณะสงฆ์ แต่ทว่า พระภิกษุรูปนี้กลับเป็นผู้สามารถทำให้วัดต่างๆ
ที่เชียงใหม่ และลำพูนพัฒนาขึ้นมาใหม่เป็นจำนวนมากจนกระทั่งท่านได้รับการยกย่องว่า "เป็นนักบุญแห่งล้านนาไทย"
ซึ่งทุกท่านที่เคยเดินทางสู่แผ่นดิน อาณาจักรลานนาไทยอันเก่าแก่
ไม่ว่าจะเป็นเมืองเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย ฯลฯ
จะไม่มีวันหนีพ้นนามของ ครูบาศรีวิชัย ได้เลย เพราะจังหวัดของหัวเมืองเหนือที่ได้เอ่ยมานี้ล้วนแต่มีผลงานของท่านปรากฏอยู่ทั้งนั้น
ตลอดชีวิตของท่านไม่เคยทำบาป
สร้างแต่ความดีให้แก่สาธารณชน
การถูกใส่ความที่ต้องรอนแรมลงมารับการสอบสวนที่กรุงเทพฯ ถึง ๒ ครั้งในชีวิต
แต่ก็พ้นมลทิน คือผลตอบแทนที่ท่านได้รับ
ขอกล่าวถึงประวัติครูบาศรีวิชัย
เดิมท่านชื่อ อินเฟือน ได้ถือกำเนิดเมื่อ วันอังคารที่ 11 เดือนมิถุนายน
พ.ศ. 2421 ตรงกับวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 9
ล้านนา เวลาพลบค่ำ ปีขาล จ.ศ 1240 ณ บ้านปาง
ต.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน บิดาชื่อ นายควาย มารดาชื่อ นางอุสา
ในระยะเยาวัยบิดามารดาได้นำเด็กชายอินท์เฟือนถวายตัวเป็นศิษย์ของ ครูบาขัตติยะ
วัดบ้านปาง จวบจนเมื่ออายุได้ 18 ปี
จึงได้ทำการบรรพชาเป็นสามาเณร ณ พระอารามแห่งนี้ ใน ปี 2442
เมื่อสามเณรอินท์เฟือนมีอายุได้ 21 ปี
จึงได้ทำการอุปสมบทเป็น พระภิกษุ ณ วัดบ้านโฮ่งหลวง จ.ลำพูน โดยมี ครูบาสมณะ
วัดบ้านโฮ่งหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่า สิริวิชโย
เมื่ออุปสมบทแล้วจึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านปางอีก 1 พรรษา
จากนั้นจึงได้เดินทางไปศึกษาสมถะวิปัสสนากรรมฐานกับ ครูบาอุปละ วัดดอยแต อ.แม่ทา
จ.ลำพูน และครูบาวัดดอยคำ ซึ่งถือว่าเป็นตักกสิลาแห่งแดนล้านนาในยุคสมัยนั้น
ครูบาเจ้าฯท่านได้ทำคุณประโยชน์ทำนุบำรุงพระศาสนาสร้างวัดวาอารามในแผ่นดินล้านนานับเป็นร้อยวัด
และผลงานชิ้นสำคัญคือสร้างทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ทุกปีจะมีพิธีเดินขึ้นดอยสุเทพ
ถือปฎิบัติมาช้านานทุกปีก่อนวันวิสาขบูชา 1 วัน ครูบาเจ้าฯเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณของชาวล้านนาภาคเหนือโดยแท้
ถึงแม้ท่านจะโดนกล่าวหาว่าร้ายจนต้องอธิกรท่านก็เดินหน้าไม่ละทิ้งอุดมการณ์ของท่าน
ต้นฉบับ มารไม่มีบารมีไม่เกิดอย่างแท้จริง เวลาท่านสอนธรรมะกับศิษยานุศิษย์ท่านสอนได้เป็นวันๆไม่ลุกไปไหนไม่ว่าจะมาเป็นร้อยเป็นพัน
หรือ เพียงคนฟังคำสอนของท่านเหลือเพียงคนเดียวท่านก็นั่งสอนธรรมะจนกว่าจะไม่มีคนฟังซึ่งหาพระภิกษุรูปไหนที่ทำได้แบบนี้ได้ยาก
ครูบาเจ้าฯท่านมีลูกศิษย์มีชื่อมากมาย และบางท่านอาจจะไม่ทราบ หลวงพ่อทองอยู่
วัดใหม่หนองพะอง ก็เป็นศิษย์อีกรูปหนึ่งของท่าน ครูบาเจ้าศรีวิชัย
สมเป็นตนบุญแห่งล้านนา
|