พระบูชาสังกัจจายน์ ยุครัชกาลมีบรรจุ หน้าตัก 1.5 นิ้ว สูง 2 นิ้ว เป็นพระรัชกาลยุคแรกๆ พุทธลักษณะยังคงล้อพระสมัยที่ยังไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
เป็นพระที่มีบรรจุที่ใต้ฐานแบบนี้ไม่พบเห็นได้ง่าย ในพระรัชกาล ต้องเป็นพระที่มีความสำคัญต่อบุคคลที่บูชา
และขนาดเป็นพระที่พกติดตัวเวลาไปค้างอ้างแรมต่างที่ ไว้ที่หัวนอนไว้สำหรับสวดมนต์ก่อนนอน
ตามคติความเชื่อโบราณ ตามตำราในการบรรจุของลงพระบูชานั้นที่ทำกันนั้นคือ
1.บรรจุพระธาตุทั้ง 4 อันประกอบด้วย พระบรมสารีริกธาตุ คือ
พระธาตุพระสิวลี พระธาตุพระสารีบุตร พระธาตุพระโมคคัลลาน์
หรือตามองค์พระพระธาตุพระสังกัจจายน์
หรือพระธาตุอื่นจะนำมาบรรจุรวมด้วยก็ได้เป็นการเพิ่มความวิเศษให้มากยิ่งขึ้น 2.นพรัตน์
อันได้แก่ เพชรดี มณีแดงเขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสด บุษราคัม แดงแก่ก่ำแก้วโกเมน
เอกสีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารหมอกบัว สีสลัวเพทาย สังวาลย์สายไพฑูรย์
เป็นส่วนผสมบรรจุร่วมด้วย
3.แผ่นเงินบริสุทธิ์ ตัดเป็นสี่เหลี่ยมหนัก 1 บาท
ลงยันต์ดวงพิชัยสงคราม
4.เครื่องบูชา อาจจะเป็นข้าวตอกดอกไม้มงคล ฯลฯ
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่ขนาดขององค์พระใหญ่เล็กและความเหมาะสม
เป็นข้อสันนิษฐานที่ยกตัวอย่างมาพอเป็นสังเขป เพราะมองไม่เห็นด้านใน โดยยึดตามตำราของหลวงปู่บุญ
วัดกลางบางแก้ว คาดว่าคติตามตำราในการบรรจุที่ฐานองค์พระไม่แตกต่างกันมาก
พระสังกัจจายน์ได้รับอิทธิพลตามความเชื่อของจีนแล้วเผยแพร่พุทธศาสนาแบบมหายาน
ตามหลักฐานพบตั้งแต่ยุคก่อนสุโขทัยมาถึงสมัยอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
และสำนักวัดสุทัศน์ฯ โดยท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) เป็นผู้สถาปนาขึ้นตามตำราที่มีอยู่ พระมหากัจจายะนะ
ปัจจุบันนิยมเรียกว่า พระสังกัจจาย อันมีลักษณะพิเศษ คือ
พระอุทรพลุ้ยซึ่งมีลักษณะคล้ายพระสุหูติขอฝนและพระมีตีลิเย
บางคนเรียกว่าพระถุงย่าม เป็นพระศรีอริยเมตไตรโพธิสัตว์ทรงสังสอนให้ผู้ปฎิบัติเน้นหนักให้เข้าถึงพระโพธิมรรคในบรรดาสรรพสัตว์
หากรักตนเองมากเท่าใดก็ให้รักผู้อื่นมากเท่านั้น
เมื่อปฎิบัติได้ดังนี้ก็จะได้รับความหลุดพ้น นี้คือแก่นของพระสังกัจจายน์ปัจจุบันมีความเชื่อว่าเป็นพระแห่งโชคลาภโภคทรัพย์ตามพุทธลักษณะมากกว่าคำสอนที่แท้จริง
หายากมาก
|